กลับไปที่สารบัญ

การใช้เครื่องมือผู้ดูแลระบบ


ภาพรวม
แพ็คเกจสำหรับผู้ดูแลระบบ

การกำหนดรหัสผ่านผู้ดูแลระบบ
การตั้งค่าเครื่องมือผู้ดูแลระบบ
ส่วนกำหนดค่าผู้ดูแลระบบ
ข้อควรพิจารณาเกี่ยวกับ Single Sign-on สำหรับ Windows* Vista* และ Windows* 7

การตั้งค่าโปรแกรมประยุกต์
การตั้งค่าอแด็ปเตอร์
กลุ่ม EAP-FAST A-ID


ภาพรวม

เครื่องมือผู้ดูแลระบบใช้สำหรับสร้างแพ็คเกจการติดตั้งแบบกำหนดเองที่สามารถส่งออกไปยังระบบไคลเอ็นต์ที่ติดตั้ง Microsoft Windows* XP, Windows Vista* และ Windows* 7 เครื่องมือผู้ดูแลระบบใช้สำหรับกำหนดการตั้งค่าผู้ใช้และส่วนกำหนดค่าเครือข่าย WiFi (ที่ใช้ร่วมกัน) เครื่องมือนี้จะถูกใช้งานโดยบุคคลที่มีสิทธิในระดับของผู้ดูแลระบบบนคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ ผู้ใช้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าหรือส่วนกำหนดค่าของผู้ดูแลระบบได้ นอกจากจะมีรหัสผ่านสำหรับเครื่องมือนี้ ควรเลือกรหัสผ่านที่ปลอดภัยและคาดเดาได้ยาก

เครื่องมือผู้ดูแลระบบอยู่ในเมนูเครื่องมือ ซึ่งเข้าถึงได้จากยูทิลิตีการเชื่อมต่อ Intel® PROSet/Wireless WiFi

ซึ่งจะต้องเลือกคุณลักษณะนี้ในระหว่างการติดตั้งซอฟต์แวร์ยูทิลิตีการเชื่อมต่อ Intel® PROSet/Wireless WiFi แบบกำหนดเอง มิฉะนั้นคุณลักษณะนี้จะไม่แสดง


แพ็คเกจสำหรับผู้ดูแลระบบ

แพ็คเกจผู้ดูแลระบบเป็นแฟ้มที่แยกได้เอง ซึ่งประกอบด้วยส่วนกำหนดค่าผู้ดูแลระบบและการตั้งค่าผู้ใช้อื่นๆ คุณสามารถคัดลอกหรือส่งแพ็คเกจสำหรับผู้ดูแลระบบไปยังเครื่องไคลเอ็นต์บนเครือข่ายของคุณ เมื่อแฟ้มดังกล่าวถูกเรียกใช้ เนื้อหาจะถูกติดตั้งและกำหนดค่าบนคอมพิวเตอร์ปลายทาง หากส่วนกำหนดค่าเป็นส่วนหนึ่งของแพ็คเกจ ส่วนกำหนดค่าดังกล่าวก็จะควบคุมวิธีการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ปลายทางเข้ากับเครือข่าย WiFi ที่ระบุ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับส่วนกำหนดค่า โปรดดู ส่วนกำหนดค่าผู้ดูแลระบบ


สร้างแพ็คเกจใหม่

  1. สำหรับผู้ใช้ Windows* XP และ Windows* 7: จากเมนูเครื่องมือ ให้คลิก เครื่องมือผู้ดูแลระบบ
  2. ป้อนรหัสผ่านเพื่อเข้าถึงเครื่องมือผู้ดูแลระบบ
  3. คลิก สร้างแพ็คเกจใหม่

  4. สร้างใหม่
ชื่อ คำอธิบาย

สร้างแพ็คเกจใหม่

สร้างแพ็คเกจที่สามารถส่งออกไปยังคอมพิวเตอร์ไคลเอ็นต์ คอมพิวเตอร์ไคลเอ็นต์สามารถรัน Windows* XP, Windows Vista* หรือ Windows* 7 ความสามารถของแพ็คเกจจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับ OS ของไคลเอ็นต์ แพ็คเกจนี้อนุญาตให้ส่งออกส่วนกำหนดค่าแบบล็อกออนล่วงหน้า/ทั่วไปและส่วนกำหนดค่าแบบต่อเนื่องที่ใช้การตรวจสอบความถูกต้อง 802.1X ชนิด EAP ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม มีข้อยกเว้นสำหรับส่วนกำหนดค่า Single Sign-on ที่จะส่งออกไปยังไคลเอ็นต์ Windows Vista* และ Windows* 7 ดูที่ ส่วนกำหนดค่าผู้ดูแลระบบ

เปิดแพ็คเกจที่มีอยู่

เลือกเพื่อเรียกดูและเปิดแพ็คเกจที่มีอยู่

  1. คลิก ตกลง
  2. กำหนดค่าตัวเลือกต่อไปนี้ที่จะรวมไว้ในแพ็คเกจ:
ชื่อ คำอธิบาย

ส่วนกำหนดค่า

คลิก รวมส่วนกำหนดค่าในแพ็คเกจนี้ (ควรจะถูกเลือกเอาไว้แล้ว) คุณสามารถใช้ส่วนกำหนดค่าร่วมกับผู้ใช้คนอื่นๆ คลิก ส่วนกำหนดค่า ที่นี่ สำหรับข้อมูลและคำแนะนำ

การตั้งค่าโปรแกรมประยุกต์

คลิกแท็บ การตั้งค่าโปรแกรมประยุกต์ คลิก รวมการตั้งค่าโปรแกรมประยุกต์ในแพ็คเกจนี้ (ควรจะถูกเลือกเอาไว้แล้ว) ระบุการตั้งค่าโปรแกรมประยุกต์ที่จะเปิดใช้งาน คลิก การตั้งค่าโปรแกรมประยุกต์ ที่นี่ สำหรับข้อมูลและคำแนะนำ

การตั้งค่าอแด็ปเตอร์

คลิกแท็บ การตั้งค่าการตั้งค่าอแด็ปเตอร์ คลิก รวมการตั้งค่าอแด็ปเตอร์ในแพ็คเกจนี้ ระบุค่าเบื้องต้นสำหรับการตั้งค่าอแด็ปเตอร์ที่ใช้บนคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ คลิก การตั้งค่าอแด็ปเตอร์ ที่นี่ สำหรับข้อมูลและคำแนะนำ

กลุ่ม EAP-FAST A-ID

คลิกแท็บ กลุ่ม EAP-FAST A-ID คลิก รวมถึงกลุ่ม A-ID เพิ่มกลุ่ม A-ID เพื่อรองรับ PAC หลายชุดจาก A-ID หลายรายการ คลิก กลุ่ม EAP-FAST A-ID ที่นี่ สำหรับข้อมูลและคำแนะนำล

  1. คลิก ปิด
  2. คุณจะได้รับการแจ้งเตือน: แพ็คเกจปัจจุบันถูกเปลี่ยนแปลงไป คุณต้องการบันทึกการเปลี่ยนแปลงนี้หรือไม่?
  3. คลิก ใช่ บันทึกแฟ้มปฏิบัติการไปยังไดเร็กทอรีบนไดรฟ์ภายในเครื่อง
  4. คลิก บันทึก แฟ้มจะถูกสร้างขึ้น
  5. คลิก เสร็จสิ้นแล้ว เพื่อดูเนื้อหาของแพ็คเกจ
  6. คลิก ตกลง

หมายเหตุ: คุณสามารถเลือก บันทึกแพ็คเกจ บนเมนู แฟ้ม เพื่อบันทึกแพ็คเกจได้ด้วย


เปิดแพ็คเกจที่มีอยู่

  1. สำหรับผู้ใช้ Windows* XP : จากเมนูเครื่องมือ ให้คลิก เครื่องมือผู้ดูแลระบบ
  2. ป้อนรหัสผ่านเพื่อเข้าถึงเครื่องมือผู้ดูแลระบบ

  3. เปิดที่มีอยู่
  4. ที่หน้า เปิดแพ็คเกจผู้ดูแลระบบ ให้คลิก เปิดแพ็คเกจที่มีอยู่ เพื่อแก้ไขแพ็คเกจที่มีอยู่
  5. คลิก เรียกดู... หาตำแหน่งแฟ้มปฏิบัติการของแพ็คเกจ
  6. คลิก เปิด เพื่อทำการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าแพ็คเกจ
  7. ที่นี่คุณสามารถ เพิ่ม, ลบ และ คัดลอก ส่วนกำหนดค่า นอกจากนี้คุณยังสามารถคลิก คุณสมบัติ เพื่ออัพเดตการตั้งค่าความปลอดภัยสำหรับส่วนกำหนดค่า
  8. คลิก ปิด
  9. คุณจะได้รับการแจ้งเตือน: แพ็คเกจปัจจุบันถูกเปลี่ยนแปลงไป คุณต้องการบันทึกการเปลี่ยนแปลงนี้หรือไม่?
  10. คลิก ใช่ บันทึกแฟ้มปฏิบัติการไปยังไดเร็กทอรีบนไดรฟ์ภายในเครื่อง
  11. คลิก บันทึก แฟ้มจะถูกสร้างขึ้น
  12. คลิก เสร็จสิ้นแล้ว เพื่อดูเนื้อหาของแพ็คเกจ
  13. คลิก ตกลง

หมายเหตุ: คุณสามารถเลือก เปิดแพ็คเกจ บนเมนู แฟ้ม เพื่อแก้ไขแพ็คเกจผู้ดูแลระบบได้ด้วย

หมายเหตุ: หากคุณสร้างแพ็คเกจของผู้ดูแลระบบสำหรับระบบ Windows* XP Professional x64 Edition แฟ้มภาษาจะอยู่ในโฟลเดอร์ \XP\Docs และ \XP\x64\Install\Lang บนระบบดังกล่าว

ดูที่


ส่วนกำหนดค่าผู้ดูแลระบบ

ส่วนกำหนดค่าผู้ดูแลระบบครอบครองและจัดการโดยผู้ดูแลระบบเครือข่ายหรือผู้ดูแลระบบของคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ ส่วนกำหนดค่าดังกล่าวใช้ร่วมกันโดยผู้ใช้ทั้งหมดบนคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ไม่สามารถแก้ไขส่วนกำหนดค่าเหล่านี้ได้ ผู้ใช้สามารถแก้ไขได้เฉพาะจากเครื่องมือผู้ดูแลระบบ ซึ่งจะมีรหัสผ่านปัองกันอยู่ ส่วนกำหนดค่าผู้ดูแลระบบมีสองประเภทคือ: แบบต่อเนื่อง หรือ แบบล็อกออนล่วงหน้า/ทั่วไป นอกจากนี้คุณยังสามารถกำหนดค่า Voice over IP (VoIP) สำหรับการส่งออกไปยังโปรแกรมประยุกต์สำหรับการโทรศัพท์ผ่านซอฟต์แวร์


ข้อควรพิจารณาเกี่ยวกับ Single Sign-on สำหรับ Windows* Vista* และ Windows* 7

ข้อมูลต่อไปนี้ใช้กับส่วนกำหนดค่า Single Sign-On (SSO) ที่สร้างขึ้นสำหรับไคลเอ็นต์ Windows Vista* และ Windows* 7* เท่านั้น

สำหรับข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับส่วนกำหนดค่าแต่ละชนิด ให้ดูรายการต่อไปนี้:


ส่วนกำหนดค่าแบบต่อเนื่อง

ส่วนกำหนดค่าแบบต่อเนื่องจะทำงานตั้งแต่ช่วงเริ่มระบบหรือเมื่อไม่มีผู้ใช้ล็อกออนเข้าสู่คอมพิวเตอร์เครื่องนี้ หลังจากที่ผู้ใช้ล็อกออฟ ส่วนกำหนดค่าแบบต่อเนื่องจะรักษาการเชื่อมต่อไร้สายจนกว่าจะปิดเครื่องคอมพิวเตอร์หรือมีผู้ใช้คนอื่นล็อกออนเข้าสู่ระบบ

หมายเหตุ: สนับสนุนส่วนกำหนดค่าแบบต่อเนื่องสำหรับ Windows Vista* หรือ Windows* 7 โปรดดู ข้อควรพิจารณาเกี่ยวกับ Single Sign-on สำหรับ Windows Vista* และ Windows* 7

จุดสำคัญของส่วนกำหนดค่าแบบต่อเนื่อง:

หมายเหตุ: ยูทิลิตีการเชื่อมต่อ WiFi สนับสนุนใบรับรองอุปกรณ์ อย่างไรก็ตาม ใบรับรองดังกล่าวจะไม่แสดงในรายการใบรับรอง

สร้างส่วนกำหนดค่าแบบต่อเนื่องสำหรับแพ็คเกจไคลเอ็นต์

ต่อไปนี้คือคำแนะนำทั่วไปสำหรับส่วนกำหนดค่าผู้ดูแลระบบชนิดนี้ สำหรับข้อมูลโดยละเอียดและข้อจำกัด โปรดดู สร้างส่วนกำหนดค่าสำหรับ Windows*

  1. สำหรับผู้ใช้ Windows* XP และ Windows 7: จากเมนูเครื่องมือ ให้คลิก เครื่องมือผู้ดูแลระบบ
  2. ป้อนรหัสผ่านเพื่อเข้าถึงเครื่องมือผู้ดูแลระบบ
  3. เลือก สร้างแพ็คเกจใหม่ หรือ เปิดแพ็คเกจที่มีอยู่ สำหรับแพ็คเกจที่มีอยู่ คุณอาจเรียกดูเพื่อระบุตำแหน่งที่ตั้ง จากนั้นคลิก ตกลง
  4. คลิก รวมส่วนกำหนดค่าในแพ็คเกจนี้
  5. คลิก ต่อเนื่อง
  6. คลิก เพิ่ม เพื่อเปิดการตั้งค่าทั่วไป
  7. ชื่อส่วนกำหนดค่า: ป้อนชื่อส่วนกำหนดค่าที่บ่งบอกความหมายได้
  8. ชื่อเครือข่าย WiFi (SSID): ป้อนตัวระบุเครือข่าย
  9. โหมดการทำงาน: เครือข่าย (โครงสร้างพื้นฐาน) ถูกเลือกไว้ตามค่าเริ่มต้น
  10. ประเภทส่วนกำหนดค่าสำหรับผู้ดูแลระบบ: ต่อเนื่อง: ใช้งานได้เมื่อไม่มีผู้ใช้ล็อกออนอยู่ ถูกเลือกไว้
  11. คลิก ถัดไป
  12. คลิก ความปลอดภัยองค์กร เพื่อเปิดการตั้งค่าความปลอดภัย ดู TLS, TTLS, PEAP, LEAP หรือ EAP-FAST สำหรับข้อมูลการกำหนดค่าความปลอดภัย 802.1X
  13. คลิก ตกลง

เอาส่วนกำหนดค่าแบบต่อเนื่องออกจากแพ็คเกจ

  1. บนแท็บต่อเนื่อง ให้คลิกส่วนกำหนดค่า
  2. คลิก เอาออก

คัดลอกส่วนกำหนดค่าแบบต่อเนื่องสำหรับแพ็คเกจ

คุณสามารถคัดลอกส่วนกำหนดค่าที่มีอยู่ โดยระบุชื่อใหม่สำหรับสำเนา คุณอาจต้องการทำสิ่งนี้เพื่อให้มีส่วนกำหนดค่าสองชุดที่เหมือนกัน การคัดลอกส่วนกำหนดค่า:

  1. เลือกส่วนกำหนดค่า
  2. คลิก คัดลอก
  3. ป้อนชื่อส่วนกำหนดค่าใหม่
  4. คลิก ตกลง

ส่วนกำหนดค่าใหม่จะถูกบันทึก ส่วนกำหนดค่าใหม่มีคุณสมบัติเหมือนกับต้นฉบับ

คัดลอกส่วนกำหนดค่าแบบต่อเนื่องสำหรับแพ็คเกจ

  1. เลือกส่วนกำหนดค่า
  2. คลิก คุณสมบัติ
  3. แก้ไขคุณสมบัติของส่วนกำหนดค่าใหม่ โดยใช้คำแนะนำเดียวกันกับที่ระบุไว้ในหัวข้อการสร้างส่วนกำหนดค่าแบบต่อเนื่อง

ส่วนกำหนดค่าแบบล็อกออนล่วงหน้า/ทั่วไป

ส่วนกำหนดค่าแบบล็อกออนล่วงหน้า/ทั่วไปจะทำงานในทันทีที่ผู้ใช้ล็อกออน หากการสนับสนุน Single Sign On ได้รับการติดตั้ง จะต้องทำการเชื่อมต่อก่อนการล็อกออนของ Windows (ล็อกออนล่วงหน้า/ทั่วไป) หากไม่ได้ติดตั้งการสนับสนุน Single Sign On ส่วนกำหนดค่าจะถูกใช้เมื่อเซสชันผู้ใช้พร้อมทำงาน ส่วนกำหนดค่าแบบล็อกออนล่วงหน้า/ทั่วไปจะปรากฏที่ด้านบนสุดของรายการส่วนกำหนดค่าเสมอ ผู้ใช้ยังคงสามารถจัดลำดับความสำคัญของส่วนกำหนดค่าที่สร้างขึ้น แต่ไม่สามารถเปลี่ยนลำดับความสำคัญของส่วนกำหนดค่าแบบล็อกออนล่วงหน้า/ทั่วไป เนื่องจากส่วนกำหนดค่าเหล่านี้จะปรากฏที่ด้านบนของรายการส่วนกำหนดค่า ยูทิลิตีการเชื่อมต่อ WiFi จะพยายามเชื่อมต่อกับส่วนกำหนดค่าผู้ดูแลระบบโดยอัตโนมัติก่อนส่วนกำหนดค่าที่สร้างโดยผู้ใช้อื่นๆ

หมายเหตุ: เฉพาะผู้ดูแลระบบเท่านั้นที่สามารถสร้างหรือส่งออกส่วนกำหนดค่าแบบล็อกออนล่วงหน้า/ทั่วไปได้

จุดสำคัญของการเชื่อมต่อแบบล็อกออนล่วงหน้าคือ:

การเชื่อมต่อแบบล็อกออนล่วงหน้า/ทั่วไป

การสนับสนุนโปรไฟล์การล็อกออนล่วงหน้า/ทั่วไปจะถูกติดตั้งระหว่างการติดตั้งแบบ กำหนดเอง ของยูทิลิตีการเชื่อมต่อ WiFi ดูรายละเอียดเพิ่มเติมใน การติดตั้งหรือถอนการติดตั้งคุณลักษณะ Single Sign On

หมายเหตุ: ถ้าไม่ได้ติดตั้งคุณลักษณะ Single Sign On หรือการเชื่อมต่อแบบล็อกออนล่วงหน้า ผู้ดูแลระบบจะยังสามารถสร้างส่วนกำหนดค่าแบบล็อกออนล่วงหน้า/ทั่วไปเพื่อส่งออกไปยังคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ได้

ข้อมูลต่อไปนี้จะอธิบายว่าคุณลักษณะการเชื่อมต่อแบบล็อกออนล่วงหน้าจะทำงานอย่างไรตั้งแต่เริ่มระบบ สมมติว่ามีส่วนกำหนดค่าที่บันทึกไว้อยู่ ส่วนกำหนดค่าที่บันทึกไว้นี้ได้กาเครื่องหมายการตั้งค่าความปลอดภัยที่ถูกต้อง "ใช้ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านที่ใช้สำหรับเข้าสู่ระบบ Windows" ซึ่งจะทำงานในขณะที่ล็อกออนเข้าสู่ระบบ Windows

  1. หลังจากระบบเริ่มทำงาน ให้ป้อนชื่อโดเมน, ชื่อผู้ใช้ และรหัสผ่านที่ใช้สำหรับการเข้าสู่ระบบ Windows
  2. คลิก ตกลง หน้าต่างสถานะส่วนกำหนดค่าแบบล็อกออนล่วงหน้า/ทั่วไปจะแสดงความคืบหน้าในการเชื่อมต่อเครือข่าย หลังจากที่อแด็ปเตอร์ WiFi ถูกเชื่อมโยงกับจุดเชื่อมต่อเครือข่าย หน้าต่างสถานะจะปิดลง และผู้ใช้ Windows จะล็อกออนเข้าสู่ระบบ

หมายเหตุ: ใบรับรองผู้ใช้สามารถเข้าถึงได้โดยผู้ใช้ที่ผ่านการตรวจสอบความถูกต้องบนคอมพิวเตอร์เท่านั้น ดังนั้น ผู้ใช้ควรล็อกออนเข้าระบบคอมพิวเตอร์เพียงครั้งเดียว (โดยใช้การเชื่อมต่อแบบมีสาย ส่วนกำหนดค่าอื่นๆ หรือการเข้าสู่ระบบเฉพาะเครื่อง) ก่อนการใช้ส่วนกำหนดค่าแบบล็อกออนล่วงหน้า/ทั่วไปที่ตรวจสอบความถูกต้องด้วยใบรับรองผู้ใช้

ขณะที่คุณล็อกออฟ การเชื่อมต่อไร้สายทั้งหมดจะยกเลิกการเชื่อมต่อ และจะใช้ส่วนกำหนดค่าแบบต่อเนื่อง (ถ้ามีอยู่) ในบางสถานการณ์ อาจมีความเหมาะสมที่จะรักษาการเชื่อมต่อปัจจุบันไว้ (ตัวอย่างเช่น ถ้าจำเป็นต้องอัพโหลดข้อมูลเฉพาะผู้ใช้ไปยังเซิร์ฟเวอร์หลังจากล็อกออฟ หรือเมื่อมีการใช้ส่วนกำหนดค่าที่ข้ามเครือข่าย) สร้างส่วนกำหนดค่าที่กาเครื่องหมายไว้ทั้งแบบล็อกออนล่วงหน้า/ทั่วไปและแบบต่อเนื่องเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการใช้งานนี้ ถ้าส่วนกำหนดค่าดังกล่าวทำงานขณะที่ผู้ใช้ล็อกออฟ การเชื่อมต่อจะยังคงใช้งานได้

สร้างส่วนกำหนดค่าแบบล็อกออนล่วงหน้า/ทั่วไปสำหรับแพ็คเกจไคลเอ็นต์

ต่อไปนี้คือคำแนะนำทั่วไปสำหรับส่วนกำหนดค่าผู้ดูแลระบบชนิดนี้ สำหรับข้อมูลโดยละเอียดและข้อจำกัด โปรดดู สร้างส่วนกำหนดค่าสำหรับ Windows*

  1. สำหรับผู้ใช้ Windows* XP : จากเมนูเครื่องมือ ให้คลิก เครื่องมือผู้ดูแลระบบ
  2. ป้อนรหัสผ่านเพื่อเข้าถึงเครื่องมือผู้ดูแลระบบ
  3. เลือก สร้างแพ็คเกจใหม่ หรือ เปิดแพ็คเกจที่มีอยู่ สำหรับแพ็คเกจที่มีอยู่ คุณอาจเรียกดูเพื่อระบุตำแหน่งที่ตั้ง จากนั้นคลิก ตกลง
  4. คลิก รวมส่วนกำหนดค่าในแพ็คเกจนี้
  5. คลิก ล็อกออนล่วงหน้า/ทั่วไป
  6. คลิก เพิ่ม เพื่อเปิดการตั้งค่าทั่วไป
  7. ชื่อส่วนกำหนดค่า: ป้อนชื่อส่วนกำหนดค่าที่บ่งบอกความหมายได้
  8. ชื่อเครือข่าย WiFi (SSID): ป้อนตัวระบุเครือข่าย
  9. โหมดการทำงาน: เครือข่าย (โครงสร้างพื้นฐาน) ถูกเลือกไว้ตามค่าเริ่มต้น
  10. ประเภทส่วนกำหนดค่าสำหรับผู้ดูแลระบบ: ล็อกออนล่วงหน้า/ทั่วไป: ใช้งานได้เมื่อผู้ใช้ล็อกออนเข้าสู่ระบบ ส่วนกำหนดค่านี้จะใช้ร่วมกันโดยผู้ใช้ทั้งหมด ได้เลือกประเภทส่วนกำหนดค่านี้แล้ว
  11. คลิก ถัดไป
  12. คลิก ขั้นสูง เพื่อเปิด การตั้งค่าขั้นสูง กำหนดการตั้งค่าขั้นสูง แล้วกลับไปที่คำแนะนำเหล่านี้
  13. คลิก ตกลง เพื่อปิดการตั้งค่าขั้นสูง
  14. คลิก ความปลอดภัยองค์กร เพื่อเปิดการตั้งค่าความปลอดภัย ดู EAP-SIM, TLS, TTLS, PEAP, LEAP, EAP-FAST สำหรับข้อมูลการกำหนดค่าความปลอดภัย 802.1X
  15. คลิก ตกลง เพื่อบันทึกส่วนกำหนดค่า และเพิ่มไปยังรายการส่วนกำหนดค่าผู้ดูแลระบบ

หมายเหตุ: ถ้ามีการเชื่อมต่อแบบต่อเนื่องไว้อยู่แล้ว ส่วนกำหนดค่าการล็อกออนล่วงหน้า/ทั่วไปจะไม่นำมาใช้ถ้าส่วนกำหนดค่านั้นไม่ได้ถูกตั้งตัวเลือกการเชื่อมต่อทั้งแบบล็อกออนล่วงหน้า/ทั่วไป และแบบต่อเนื่องเอาไว้

เอาส่วนกำหนดค่าแบบล็อกออนล่วงหน้า/ทั่วไปออกจากแพ็คเกจ

  1. บนแท็บต่อเนื่อง ให้คลิกส่วนกำหนดค่า
  2. คลิก เอาออก

คัดลอกส่วนกำหนดค่าแบบล็อกออนล่วงหน้า/ทั่วไปสำหรับแพ็คเกจ

คุณสามารถคัดลอกส่วนกำหนดค่าที่มีอยู่ โดยระบุชื่อใหม่สำหรับสำเนา คุณสามารถแก้ไขส่วนกำหนดค่าใหม่ คุณอาจต้องการทำสิ่งนี้เพื่อให้มีส่วนกำหนดค่าสองชุดที่เหมือนกัน การคัดลอกส่วนกำหนดค่า:

  1. เลือกส่วนกำหนดค่า
  2. คลิก คัดลอก
  3. ป้อนชื่อส่วนกำหนดค่าใหม่
  4. คลิก ตกลง

ส่วนกำหนดค่าใหม่จะถูกบันทึก ส่วนกำหนดค่าใหม่มีคุณสมบัติเหมือนกับต้นฉบับ

แก้ไขส่วนกำหนดค่าแบบล็อกออนล่วงหน้า/ทั่วไปสำหรับแพ็คเกจ

  1. เลือกส่วนกำหนดค่า
  2. คลิก คุณสมบัติ
  3. แก้ไขคุณสมบัติของส่วนกำหนดค่าใหม่ โดยใช้คำแนะนำเดียวกันกับที่ระบุไว้ในหัวข้อการสร้างส่วนกำหนดค่าแบบต่อเนื่อง

คลิก การสร้างส่วนกำหนดค่าผู้ดูแลระบบสำหรับความปลอดภัยองค์กร สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม


แยกเครือข่าย

ผู้ดูแลระบบสามารถกำหนดเครือข่ายที่จะแยกออกจากการเชื่อมต่อ เมื่อเครือข่ายถูกแยก เฉพาะผู้ดูแลระบบเท่านั้นที่จะสามารถเอาเครือข่ายออกจากรายการแยก เครือข่ายที่ถูกแยกจะแสดงในการจัดการรายการที่แยก และถูกระบุโดยไอคอนนี้:

หมายเหตุ: ไม่พร้อมใช้งานสำหรับแพ็คเกจ Windows Vista* และ Windows* 7

การแยกเครือข่าย:

  1. คลิก รวมส่วนกำหนดค่าในแพ็คเกจนี้
  2. คลิก แยก
  3. คลิก เพิ่ม เพื่อเปิด แยกเครือข่าย (SSID)
  4. ชื่อเครือข่าย: ป้อนชื่อเครือข่ายสำหรับเครือข่ายที่คุณต้องการแยก
  5. คลิก ตกลง เพื่อเพิ่มชื่อเครือข่ายไว้ในรายการแยก

การเอาเครือข่ายออกจากการแยก:

  1. เลือกชื่อเครือข่ายในรายการแยก
  2. คลิก เอาออก เครือข่ายถูกลบออกจากรายการแยก

การเชื่อมต่อ Voice over IP (VoIP)

ยูทิลิตีการเชื่อมต่อ WiFi สนับสนุนโปรแกรมซอฟต์โฟน VoIP ของผู้ผลิตรายอื่น โปรแกรมประยุกต์ VoIP ของผู้ผลิตรายอื่นสนับสนุนตัวแปลงสัญญาณเสียง โดยทั่วไปตัวแปลงสัญญาณมีความสามารถในการบันทึกแบนด์วิธเครือข่าย ยูทิลิตีการเชื่อมต่อ WiFi สนับสนุนมาตรฐานตัวแปลงสัญญาณของ International Telecommunications Union (ITU) ดังต่อไปนี้:

ตัวแปลงสัญญาณ อัลกอริธึม

ITU G.711

PCM (Pulse Code Modulation)

ITU G.722

SBADPCM (Sub-Band Adaptive Differential Pulse Code Modulation)

ITU G.723

Multi-rate Coder

ITU G.726

ADPCM (Adaptive Differential Pulse Code Modulation)

ITU G.727

Variable-Rate ADPCM

ITU G.728

LD-CELP (Low-Delay Code Excited Linear Prediction)

ITU G.729

CS-ACELP (Conjugate Structure Algebraic-Code Excited Linear Prediction)

ผู้ดูแลระบบสามารถส่งออกการตั้งค่า VoIP เพื่อกำหนดอัตราข้อมูลสำหรับการเข้ารหัส/ถอดรหัสและอัตราเฟรม เพื่อปรับปรุงคุณภาพเสียงในการรับส่ง VoIP การสร้างส่วนกำหนดค่า VoIP:

หมายเหตุ: ตรวจสอบว่า Voice over IP ไม่ได้ถูกปิดใช้งานในเครื่องมือผู้ดูแลระบบ การตั้งค่าโปรแกรมประยุกต์ ซึ่งตามค่าเริ่มต้นแล้วส่วนนี้จะเปิดใช้งานอยู่

  1. คลิก รวมส่วนกำหนดค่าในแพ็คเกจนี้
  2. คลิก VoIP
  3. คลิก เพิ่ม เพื่อเปิดหน้า สร้างส่วนกำหนดค่า VoIP
  4. เลือกแบนด์วิดธ์ตัวแปลงสัญญาณ, การใช้โปรแกรมประยุกต์ และอัตราเฟรม สำหรับข้อมูลเสียง:

G711 มีอัตราเฟรม 10ms ด้วยอัตราบิต 64kbps
G722 มีอัตราเฟรม 10ms ด้วยอัตราบิต 64kbps
G723 มีอัตราเฟรม 30ms ด้วยอัตราบิต 5.3kbps หรือ 6.4kbps
G726-32 มีอัตราเฟรม 10ms ด้วยอัตราบิต 32kbps
G728 มีอัตราเฟรม 2.5ms ด้วยอัตราบิต 16kbps
G729 มีอัตราเฟรม 10ms ด้วยอัตราบิต 10kbps

เลือกพารามิเตอร์จากเมนูแบบหล่นลง

ตัวแปลงสัญญาณ การใช้งาน อัตราเฟรม
  • G711_64kbps
  • G722_64kbps
  • G722_56kbps
  • G722_48kbps
  • G722_1_32kbps
  • G722_1_24kbps
  • G722_1_16kbps
  • G726_16kbps
  • G726_24kbps
  • G726_32kbps
  • G726_40kbps
  • G728_16kbps
  • G729a_8kbps
  • G729e_11_8kbps
  • GIPS_iPCM_VARIABLE
  • G722_2_VARIABLE
  • เสียงโต้ตอบ
  • ประชุมทางเสียง
  • ข้อมูลเสียง
  • วิดีโอ
  • การถ่ายทอดเสียง
  • 20
  • 30
  1. คลิก ตกลง เพื่อกลับเข้าสู่รายการส่วนกำหนดค่า
  2. คลิก ปิด เพื่อบันทึกส่วนกำหนดค่าไปยัง แพ็คเกจ

การตั้งค่าโปรแกรมประยุกต์

ผู้ดูแลระบบสามารถกำหนดการตั้งค่าโปรแกรมประยุกต์ยูทิลิตีการเชื่อมต่อ WiFi เพื่อควบคุมลักษณะการทำงานของโปรแกรมประยุกต์บนคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ และเลือกระดับการควบคุมของผู้ใช้สำหรับแง่มุมต่างๆ ของการเชื่อมต่อไร้สาย ดู การตั้งค่าโปรแกรมประยุกต์


การตั้งค่าอแด็ปเตอร์

ผู้ดูแลระบบสามารถกำหนดการตั้งค่าอแด็ปเตอร์สำหรับอแด็ปเตอร์ WiFi ที่ติดตั้งไว้บนคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ ดู การตั้งค่าอแด็ปเตอร์


กลุ่ม EAP-FAST A-ID

หมายเหตุ: คุณลักษณะนี้ไม่สามารถใช้ได้ ถ้าไม่เลือก CCXv4 ไว้ในเครื่องมือผู้ดูแลระบบ การตั้งค่าโปรแกรมประยุกต์

ID ผู้มีสิทธิ์ (A-ID) คือ เซิร์ฟเวอร์ RADIUS ที่กำหนดกลุ่ม A-ID ของ Protected Access Credentials (PAC) กลุ่ม A-ID ถูกแบ่งใช้โดยผู้ใช้ทุกคนบนคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ และยินยอมให้ส่วนกำหนดค่า EAP-FAST สนับสนุน PAC หลายชุดจาก A-ID หลายชุด กลุ่ม A-ID สามารถกำหนดไว้ล่วงหน้าได้โดยผู้ดูแลระบบ และตั้งค่าผ่านทาง แพ็คเกจผู้ดูแลระบบ บนคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ เมื่อส่วนกำหนดค่าเครือข่ายไร้สายพบเซิร์ฟเวอร์ที่มี A-ID ภายในกลุ่มเดียวกันกับ A-ID ที่ระบุไว้ในส่วนกำหนดค่าเครือข่ายไร้สาย ก็จะใช้ PAC นี้โดยไม่มีกล่องแสดงข้อความเตือนผู้ใช้

การเพิ่มกลุ่ม A-ID:

  1. เลือก รวมกลุ่ม A-ID
  2. คลิก เพิ่ม
  3. ป้อนชื่อกลุ่ม A-ID ใหม่
  4. คลิก ตกลง กลุ่ม A-ID จะถูกเพิ่มเข้าในรายการกลุ่ม A-ID

ถ้ากลุ่ม A-ID ถูกล็อค จะไม่สามารถเพิ่ม A-ID อื่นๆ เข้าในกลุ่มได้

การเพิ่ม A-ID เข้าในกลุ่ม A-ID:

  1. เลือกกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งจากรายการกลุ่ม A-ID
  2. คลิก เพิ่ม ในส่วน A-ID
  3. เลือก A-ID
  4. คลิก ตกลง A-ID จะถูกเพิ่มเข้าในรายการ

กลับไปที่ด้านบน

กลับไปที่สารบัญ

เครื่องหมายการค้าและข้อสงวนสิทธิ์